DiN

Pages

  • หน้าแรก

Home Editor's Picks กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ กับการสร้างอัตลักษณ์วรรณกรรมละตินอเมริกัน (3)

กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ กับการสร้างอัตลักษณ์วรรณกรรมละตินอเมริกัน (3)

DiN วันจันทร์, มกราคม 30, 2555 0


จาก : โลกในมือนักอ่าน

กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ กับการสร้างอัตลักษณ์วรรณกรรมละตินอเมริกัน (3)

จากวรรณกรรมสมัยใหม่กลับสู่ตำนานท้องถิ่น

นับตั้งแต่เขาเดินทางจากปารีสกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนในปี 1958 จนถึงปี 1962 การ์เซีย มาร์เกซ ได้มีโอกาสเดินทางไปยังดินแดนต่างๆ ในอเมริกาใต้อย่างค่อนข้างโชกโชน

เริ่มต้นจากเดินทางไปทำงานอยู่ที่ Caracas ในประเทศเวเนซุเอลาจนถึงปี 1959 เมื่อ ฟิเดล คาสโตร ประสบความสำเร็จสามารถโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการทหารของนายพลบาติสต้า รัฐบาลคิวบาของคาสโตรได้ทาบทามให้ การ์เซีย มาร์เกซ เดินทางมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวละติน (Prensa Latina) ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่

งานใหม่นี้เปิดโอกาสให้เขาได้เดินทางไปยังหลายประเทศในละตินอเมริกา ที่พำนักสุดท้ายของ การ์เซีย มาร์เกซ ก่อนตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งคือมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

การ์เซีย มาร์เกซ เดินทางกลับมหานครเม็กซิโกโดยเลือกใช้การนั่งรถโดยสารแทนการขึ้นเครื่องบิน เพราะต้องการเที่ยวชมดินแดนตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐมิสซิสซิปปี ถิ่นกำเนิดของฟอล์กเนอร์ และที่มาของนวนิยายชุดดินแดน Yokanapatawpha ที่กลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ในงานของฟอล์กเนอร์

อาจจะกล่าวได้ว่า การจาริกสู่ตอนใต้ของอเมริกาเพื่อแสดงคาราวะต่อฟอล์กเนอร์ในครั้งนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความหลงใหลฟอล์กเนอร์ในช่วงก่อนที่เขาจะเดินทางไปยุโรป

เพราะในครั้งนี้ ฟอล์กเนอร์มิได้เป็นแค่แม่แบบงานเขียนสมัยใหม่ของวัฒนธรรมยุโรป เหมือนกับ คาฟก้า จอยซ์ วูลฟ์ เหล่านักเขียนยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่ การ์เซีย มาร์เกซ ชื่นชม แต่เขาถือเอาฟอล์กเนอร์เป็นบรรพบุรุษของนักเขียนละตินอเมริกัน

ในหนังสือที่เขาเขียนร่วมกับเพื่อนนักเขียนชาวเปรู มาริโอ วาร์กาส โลซา (Mario Vargas Llosa) ทั้งคู่ได้กล่าวถึงงานของนักเขียนอเมริกันผู้สร้างตำนานให้กับดินแดนภาคใต้อเมริกาผู้นี้ไว้ว่า

"แนวการเขียนแบบฟอล์กเนอร์สามารถบรรยายความเป็นจริงของละตินอเมริกาได้อย่างดียิ่ง และนั่นคือสิ่งที่เราค้นพบโดยไม่ตั้งใจในงานของฟอล์กเนอร์ เราเห็นถึงความเป็นจริงของละตินอเมริกาและต้องการจะบอกเล่ามัน แต่เรารู้ว่าแนวการเขียนแบบยุโรปหรือแบบคลาสสิกของสเปนไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ และแล้วเราก็พบว่าแนวการเขียนแบบฟอล์กเนอร์สามารถบรรยายความเป็นจริงดังกล่าวได้อย่างเที่ยงตรงที่สุด"(Garcia Marquez and Llosa, 52 อ้างใน Frisch)

ด้วยเหตุดังกล่าว การ์เซีย มาร์เกซ ได้รับเอายักษ์ใหญ่ของวรรณกรรมอเมริกันในศตวรรษที่ 20 มาเป็น "รากเหง้า" ของตนเองอย่างเปิดเผย เมื่อพวกเขาประกาศว่า "ในบางแง่ เราอาจกล่าวได้ว่า ฟอล์กเนอร์คือนักเขียนละตินอเมริกัน"

แนวการเขียนของฟอล์กเนอร์ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ การ์เซีย มาร์เกซ และนักเขียนแนวหน้าคนอื่นๆ ในละตินอเมริกัน คือ การใช้นวัตกรรมทางวรรณศิลป์เพื่อสร้างตำนานให้กับความเป็นจริงอันซับซ้อนของดินแดนตอนใต้ของอเมริกา และสร้างความเป็นจริงให้กับตำนานที่หยั่งรากลึกอยู่ในจิตสำนึกของคนใต้

ผลพวงของความพยายามดังกล่าว คือนวนิยายร่วมสิบ เล่มในชุด Yoknapatawpha County ดินแดนในจินตนากรรม (imagined homeland) ที่ฟอล์กเนอร์สร้างขึ้น

สําหรับ การ์เซีย มาร์เกซ ดินแดนในจินตนากรรมของละตินอเมริกาคือ เมืองมาคอนโด ที่ปรากฏในนวนิยายแนวสัจนิยมมหัศจรรย์หลายเล่มของเขา โดยเฉพาะในงานชิ้นเอกอันโด่งดังที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีคือ หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว (One Hundred Years of Solitude)

ช่วงเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 1962-1965 ในเม็กซิโกเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางอาชีพนักเขียนของ การ์เซีย มาร์เกซ ตอนกลางวันเขาทำงานเป็นนักเขียนคำโฆษณา ตอนกลางคืนเขาเขียนงานสร้างสรรค์ งานเขียนในช่วงนี้มีเช่น นวนิยายขนาดสั้นเรื่อง The Evil Hour ที่เขียนค้างไว้ตั้งแต่สมัยอยู่ที่ปารีส รวมเรื่องสั้นชุด Big Mama"s Funeral นอกจากนี้ ยังมีบทภาพยนตร์อีกสามชิ้น

เล่ากันว่าในช่วงปี 1964 เขาเกิดอาการเขียนไม่ออกอยู่เป็นปี จนกระทั่งในปี 1965 ระหว่างขับรถจากมหานครเม็กซิโกไปยังเมืองอาคาปูลโก้ ความทรงจำในวัยเด็กพลันผุดบังเกิดขึ้นในใจ มันคือความทรงจำเกี่ยวกับตำนานต่างๆ ของตระกูล ตลอดจนบรรดาเรื่องราวสุดแสนมหัศจรรย์ที่ยายของเขาเคยขับกล่อมเล่าขานให้ฟังเป็นประจำ ในท่วงทำนองและลีลาเนิบนาบ ด้วยสีหน้าอันเฉยเมย

เขาค้นพบแล้วว่านวนิยายเล่มต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และจะเขียนมันอย่างไร

การ์เซีย มาร์เกซ ใช้เวลา 18 เดือน ขังตัวเองอยู่ในห้องทำงาน นั่งเขียนต้นฉบับนวนิยายที่ต่อมาได้รับการสดุดีว่าเป็นมหากาพย์แห่งวรรณกรรมละตินอเมริกา คือเพชรน้ำเอกของบรรณพิภพแห่งศตวรรษที่ 20 คือธงนำที่ทำให้วรรณกรรมแนวสัจนิยมมหัศจรรย์โดดเด่นในสายตาคนทั้งโลก

นวนิยายเล่มที่ว่านั้นก็คือ หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว



เอกสารอ้างอิง

Frisch, Mark. "Teaching One Hundred Years of Solitude with the Sound and the Fury". 19 July 2010. < http://www6.semo.edu/cfs/TFN_online/sound_frisch.htm>.

Tags: Books Editor's Picks
Share:

แสดงความคิดเห็น

บทความใหม่กว่า บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก
สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น ( Atom )
Designed by OddThemes
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Category

  • การ์ตูน
  • กาลครั้งหนึ่งฯ
  • คนเขียนเพลงบรรเลงชีวิต
  • คาเฟ่ข้างทาง
  • คำหวาน
  • โคลงอาเพศสยามกำสรวล
  • งานแปล
  • ชอว์แช็งค์
  • ชักม้าชมเมือง
  • ชั้นวางหนังสือ
  • ทดลองอ่าน
  • นิยายกำลังภายใน
  • นิยายเล่มเล็ก
  • นิราศจันทร์
  • บทกวี
  • บอกอแบกบาล
  • บันทึกอักษรกระบี่
  • บางบอนซอยตำแย
  • บ้านเกิด
  • ใบปิด
  • พระจันทร์น้อย
  • เพียงผ่านมาพานพบ
  • ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ
  • ภูมิแพ้ฯ
  • มหาสันติยาตรา
  • โยนิโสมนสิการ
  • เรื่องสั้นจู๋
  • โรงบ่มฝัน
  • วรรณกรรมเยาวซน
  • วรรณภาพ
  • สะบายดี
  • หนังสือเดินทาง
  • หักงวงไอยรา
  • อภิชาต
  • อหังการ์ล่าผ่าปฐพี
  • a day BULLETIN
  • Animation
  • Art
  • book
  • bookpack
  • Books
  • BookShop
  • cartoon
  • Coffee Brake
  • Crossbooks
  • Day by Word
  • D Din Wordanic
  • Dream Garden
  • Earthmoon Organic
  • ebook
  • eco life
  • editor's note
  • Editor's Picks
  • essay
  • Flash Fiction
  • FWD Mail
  • gallery
  • guestbook
  • Home Town
  • In Memoir
  • koh kred sketchbook
  • Kokbuabok
  • Lanta Memoir
  • Letter in a Bottle
  • life
  • Life Gallery
  • Listen
  • literature
  • Literature Wave
  • Little Hut
  • Little Smile
  • misc.
  • Movies
  • Movies Review
  • msc
  • music
  • My Works
  • Novel
  • Once Upon A Time
  • opinion
  • poem
  • PrajunDin Garden
  • PrajunDin Veggies Garden
  • quote
  • short film
  • short films
  • shortstory
  • sketchbook
  • Talk2Win
  • The Letters
  • The Note Book
  • The Writer's Room
  • Things We Forget
  • Travel
  • VDO
  • Whisper of the Wind
  • Wing's Wind
  • win's shadow
  • Words
  • Writer Comic
  • Writer's Toolbox
  • Your Words