"อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามา!" ละไมแผดร้องลั่นกวัดแกว่งอีโต้ตราเพชรในมือ วาวแสงสะท้อนแดดบ่ายวับ ๆ "เข้ามาล่ะชั้นจะเชือดคอไอ้แดงให้ดู!" ไม่พูดเปล่า จ่อมีดเข้ากับซอกคอไอ้แดงในอ้อมอก มือสั่นจนหวาดเสียวว่าจะพลาดโดนผิวเนื้ออ่อนไม่รู้จังหวะไหน ไอ้หนูวัยสามขวบร้องจ้าหน้าแดงเป็นมะอึกสุก
พวกคนดูถอยกรูด
บางคนกางมือกั้นคนอื่นไม่ให้ผลีผลามขณะตัวเองก้าวถอยลืมตัว
"วางมีดก่อนเหอะวะอีไม มีไรค่อยพูดค่อยจากัน" ป้าหลาบแม่ค้าหมูเจ้าของอีโต้ตราเพชรในมือละไมเหงื่อกาฬโซมหน้า อยู่ดีไม่ว่าดีเสือกมายืมอีโต้กู นึกว่าเอาไปทำอะไร ทะลึ่งเอามาจ่อคอลูกตัวเอง พลาดท่าพลาดทีไอ้แดงเกิดตาย กูต้องเข้าคุกไปด้วยมั้ยล่ะเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งอกสั่นขวัญแขวน ป้าหลาบตลบผ้าผุงกระชับเอวส่งเสียงละห้อย "ยังไงเราก็คนคุ้นเคย.."
"ป้านั่นแหละถอยไป!" ละไมตวาด
เหมือนเห็นแมลงวันหัวเขียวบินตรงมา ป้าหลาบเจ้าของเขียงหมูหุบปากทันที ยามนี้พวกคนมาเดินตลาดหยุดจับจ่ายซื้อของ พวกแม่ค้าจะนั่งเฝ้าแผงก็ใช่ที่อยากรู้เหมือนกันเกิดอะไรขึ้น พากันทิ้งแผงโดดแผล็วมามุงหญิงสาวใบหน้าขาวรวบผมยาวอุ้มเด็กในอ้อมอกมือกวัดมีดอีโต้ไปมา
"กลั่นแกล้งกันดีนัก ความยุติธรรมน่ะมีบ้างมั้ย" ละไมแผดเสียง "เงินกูก็จ่ายทุกเดือนไม่เคยผิดเวลา อีไมขายแค่รถเข็นไม่ใช่แผงใหญ่ ๆ หยั่งเขียงหมู" หัวอีโต้ชี้ป้าหลาบ ทำเอาเจ้าของมีดสะดุ้งโหยง ละไมรัวมือเหมือนกำลังสับบะช่อ "ยังไงกูก็คนนะโว้ยไม่ใช่วัวไม่ใช่ควาย เห็นไม่มีเส้นไม่มีสายคิดจะเหยียบจะกระทืบยังไงก็ได้ หมามันยังสู้จนตรอก กูคนนะโว้ยอย่าบีบคั้นกันให้มากนัก เงียบ!" ละไมก้มตะคอกไอ้แดง ขยับกระดอนมันให้เข้าแขน เด็กน้อยมองแม่แววตางุนงงปากยังส่งเสียงร้องจ้า
ป้านุแผงลูกชิ้นสะกิดเอวป้าหลาบ เจ้าของเขียงหมูสะดุ้งเฮือก
"โธ่ อีนุ เขี่ยเอวกูหาตะบักตะบวยอะไรจักกะจี๋" ป้าหลาบสะบัดมือ
ป้านุแผงลูกชิ้นกระซิบถาม "มันเรื่องอะไรกันอ่ะป้า?"
"เก๊าะอีไมน่ะสิ"
"ชั้นรู้แล้วว่านั่นน่ะอีไม ก็แล้วมันเรื่องอะไรถึงไปนั่งเอาอีโต้จ่อคอลูกยังงั้น"
"เทศกิจยึดรถเข็นมันอ่ะติ"
ป้านุสะอึก หัวอกแม่ค้าด้วยกันทำไมจะไม่สะอึก ที่ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอยู่ทุกวี่วัน หากต้องมีอันเป็นไปจะเอาอะไรกินเข้าไป ที่ใหม่กว่าหาได้กว่าได้ลูกค้าทำเลดี ๆ หาง่ายเสียที่ไหน ป้านุกวาดตา ผู้คนล้อมหน้าหลังขนัดยังกะมีปาหี่ ตำรวจท้องที่ไวไม่หยอก มากันแล้วสี่ห้านายมือถือวิทยุอีกมือคอยป้องฝูงชนออกห่างวง
"เด็กร้องใหญ่แล้ว วางเด็กลงก่อนเหอะน้อง สงสารมัน" ตำรวจนายหนึ่งร้องบอก
"ตำรวจนั่นแหละตัวดี พึ่งไม่ได้สักเรื่อง" ละไมสวนกลับ
"เด็กมันคงหิวนมแล้ว เอานี่.."
"ไม่ต้องมายุ่ง!" ละไมตะคอก "เอารถเข็นกูคืนมา!"
"ตอนนี้รถเข็นอยู่ไหน?" ตำรวจคนเดิมถาม
"ที่เขตฯ" ละไมตอบขยับมีดจ่อคอลูก "เอาหัวหน้าเขตฯ มาคุยกันให้รู้เรื่อง"
"ได้ ๆ รอเดี๋ยว" ตำรวจคนเดิมหันไปบอกกับเพื่อนตำรวจ นายตำรวจอีกคนพยักหน้า ยกวิทยุเคลื่อนสั้นแนบหู
"แจ้งทางเขตฯ ไปแล้วอีกเดี๋ยวคงมา" ตำรวจหันบอกกับละไม ยื่นขวดน้ำให้ "เอาน้ำไปกินก่อน ให้เด็กก็ได้เผื่อจะหิวนม"
"ไม่ต้อง!" ละไมตวาดตาขวาง "ถอยไปห่าง ๆ ใส่ยานอนหลับไว้ในน้ำหลอกให้กูกินจะได้จับตัวง่าย ๆ ล่ะสิ กูไม่โง่เคยดูในละครโว้ย"
ตำรวจนายนั้นถอยออกมา ป้าหลาบยืนมองคอยลุ้นให้มีดอยู่ห่าง ๆ คอไอ้แดง เผลอตัวกุมมือป้านุไว้แน่น นังละไมนั่งบนราวสะพานก่อปูนข้ามคลองเชื่อมตลาดออกถนน พูดพลางชี้มีดวาดมือไปมาแล้วจ่อคอลูก จนป้าหลาบอยากให้มันพูดอย่าได้หยุด หยุดทีไรเป็นจ่อมีดเข้ากับคอไอ้แดงดูแล้วเสียวไปถึงน่อง คิดถึงน่องก็ให้คันยุบยิบ น้ำท่วมบ้านเดินลุยเข้าออกจนขาพองง่ามเท้าเปื่อยหมดแล้ว ป้าหลาบพับขายื่นมือเกาน่องตามองไทยมุง พวกสวมชุดมูลนิธิฯ สองสามคนพูดคุยกับตำรวจแล้วกระจายออกคนละทิศละทาง
อึดใจเดียวเจ้าหน้าที่เขตฯ มาถึง หญิงสาวไม่ยอมคุยด้วย
"เอาหัวหน้าเขตฯ มา!" ละไมตะคอกเจ้าหน้าที่เขต
"ท่านผ.อ.ไม่อยู่ ผมเป็นตัวแทน คุณมีอะไรข้องใจก็ว่ามา" เจ้าหน้าที่วัยกลางคนผิวคล้ำเลื่อนมือปัดปลายเรียวผมพาดข้ามทุ่งโล่งจากฟากซ้ายมาฝั่งขวา
"พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง กูจะคุยกับตัวจริง" ละไมบอก
"คุยกับผมก็ได้ ผมมีอำนาจตัดสินใจ" เจ้าหน้าที่เขตฯ โต้
"ไม่คุย!" ละไมสวนทันควัน "คุยกับตัวแทนมีแต่เละ ดูหยั่งตอนนี้สิ นายกฯ ตัวจริงอยู่ไหนก็ไม่รู้ปล่อยให้นายกฯ ตัวแทนทำงาน แล้วไง เละเห็น ๆ บ้านกูน้ำเน่าขังมาจะเดือนแระ มันยังกันตรงโน้นกั้นตรงนี้ไม่ปล่อยให้น้ำไหลไปซะที เอาหัวหน้าเขตฯ มาคุย เอาตัวจริงมา กูไม่คุยกับตัวแทน!"
ละไมแผดเสียงจนน้ำลายกระเซ็น เหลือบเห็นคนของมูลนิธิฯ ขยับเข้าใกล้ ละไมกราดมีดในมือ
"อย่าเข้ามานะเว้ย!"
คนของมูลนิธิฯ ก้าวถอยตาจ้องหญิงสาวแน่วนิ่ง ละไมกระท้อนไอ้แดงในอ้อมอก เงียบไปแล้ว คงร้องไห้จนหมดแรง
"บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์มารึปล่าว?" หญิงสาวตะโกนถาม
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ไม่ตอบยืนจ้องละไมนิ่ง ป้าหลาบกระซิบบอกกับตำรวจ
"อีไมมันชอบบิณฑ์"
นายตำรวจพยักหน้าแล้วเดินไปคุยกับเจ้าหน้ามูลนิธิฯ แดดบ่ายแผดแสงจัดจ้า ทุกคนเหงื่อไหลไคลย้อยไปตาม ๆ ละไมก็ไม่เว้น ตะโกนพูดมานานท่าทางเหนื่อยอ่อน เหลือก็แต่แววตาที่ยังกร้าวมองทุกคนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
"เอารถเข็นของกูคืนมา" ละไมแผดเสียงใส่เจ้าหน้าที่เขตฯ
"ผมรับปากจะเอารถเข็นคืนให้ คุณวางมีดลงได้แล้ว" เจ้าหน้าที่เขตฯ บอก
"ไม่วาง" หญิงสาวสีหน้าขมึงทึง "กูไม่เชื่อน้ำหน้ามึง มึงก็แค่ตัวแทนจะมีน้ำยาอะไร แกล้งรับปากกูแล้วไม่ทำ กูจนก็จริงแต่ไม่ได้โง่ เอาหัวหน้าเขตฯ มา เอาหัวหน้าเขตฯ มาเท่านั้น ให้มันมารับปากต่อหน้านักข่าวว่าจะคืนรถเข็นให้กู ให้กูขายได้ตามเดิม"
ป้าหลาบเจ้าของเขียงหมู (และเจ้าของอีโต้ตราเพชร) เหลือบมองรอบวง เห็นทัพนักข่าวแบกกล้องจับภาพดูคล้ายอีละไมกลายเป็นดาราไปแล้ว
"มาไวเว้ย!" ป้าหลาบพึมพำ
"ตอนนี้ล่ะมึงจะมาพูดดี" ละไมใช้ต้นแขนปาดเหงื่อเข้าตา "ตอนกูขึ้นไปที่เขตฯ ทั้งกราบทั้งไหว้ขอรถเข็นคืน ไม่มีใครสนใจเหมือนกูเป็นหมูเป็นหมา คนด้วยกันนะโว้ย! แต่คนมันไม่เห็นคนเป็นคน คนหยั่งพวกมึงอยู่ไปมีแต่ฉิบหาย เงินเดือนที่พวกมึงยาไส้ไปทุกวันก็เงินภาษีพวกกูทั้งนั้น ไหนจะเงินรายนอกเงินใต้โต๊ะ พวกมึงกินอยู่สุขสบายวัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร ขูดรีดเอาจากพวกกู แล้วยังมากลั่นแกล้ง.."
ละไมพูดพลางกวาดมือชี้มีด กำลังระบายอารมณ์เพลินพลันชะงัก ทันทีแขนถูกคว้า นายตำรวจวิ่งเข้าชาร์ต แยกตัวเด็กจากแม่ ละไมตะลึงข้อมือคล้ายถูกคีมบีบ มีดหลุดมือ หญิงสาวร้องโวยวายลั่น พวกชาวบ้านกรูเข้าห้อมล้อม ช่วงแขนแข็งแรงเต็มด้วยกล้ามเนื้อโอบหญิงสาวไว้
"นิ่งเถอะครับ ไม่เป็นไรแล้ว" เสียงนั้นปลอบโยน
ละไมพบายามดิ้นแต่ไม่ทานแรงแขน ที่สุดนิ่งอยู่ในอ้อมอกแข็งแกร่ง เหลือบตามองก็ต้องสยิวใจ พระเอกร่วมกตัญญูกำลังกอดเธอไว้ คงไม่ใช่ฝันไป หญิงสาวจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาแน่วนิ่ง เคยคิดฝันแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ ก็ดีใจแล้ว แต่ตอนนี้เขากำลังกอดเธอไว้ในอ้อมอก สาวเจ้าอ่อนระโหยเข่าทรุดหมดเรี่ยวโรยแรง
พระเอกรูปงามประคองเธอไว้และยิ้มปลอบ
ละไมยิ้มมองพระเอกในฝันแล้วรำพึง "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์"
พระเอกร่วมกตัญญูยิ้มตอบ "ผมเอกพันธ์ พอดีพี่ท็อปไปช่วยภาระกิจน้ำท่วมครับ"
-จบ-
ขอบคุณฉับโหยงชีวิต...ตอน พ่อของวิชัย : Matthew Scott Jr ช่วยเติมต่อแรงใจให้ขีดเขียนในวันเวลาที่น้ำเน่าล้างเมืองอยู่ ณ ขณะนี้
Tags: shortstory