from COMICS66 - Thailand Comics Reader Blog 
Aquaman #05:
DC Comic : Aquaman 05 : LOST

เรื่อง : Geoff John
ภาพ : Ivan Reis, Joe Prado
วางจำหน่าย: 25 มกราคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics


จากร่องรอยที่ได้จากหุบเหวใต้ทะเล ได้ทำให้ Aquaman ต้องไปติดอยู่ในที่ๆเขาไม่ควรไปอยู่ที่สุด…ทะเลทราย!!



.

.

.

เปิดเรื่องมาที่สถานที่แห่งหนึ่ง
ชายคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า ลงมากระแทกพื้นจนฝุ่นทรายฟุ้งกระจาย


ชายคนนั้นคือ Aquaman (Athur Curry) นั่นเอง แต่ทำไมเขาถึงตกลงมาจากฟ้าแล้วมาหล่นกลางทะเลทรายกันล่ะ?!


Aquaman มองไปรอบตัว และพบว่าเขากำลังอยู่กลางทะเลทรายอันว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดนอกจากทราย…ไม่มีร่องรอยของมนุษย์…ไม่มีน้ำซักหยด…

Arthur : แย่แล้วสิเนี่ย


ที่ประภาคารบนอ่าว Amnesty Bay

ในคืนที่มีพายุนั้น Arthur นอนไม่หลับ เขาจึงยืนดูคลื่นทะเลที่บ้าคลั่งด้านนอก

Mera : อาเธอร์?

Mera : อาเธอร์คุณทำอะไรอยู่หรือ?

Arthur : ผมมองดูพายุอยู่ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ

Mera : เรื่องอะไรล่ะ?

ที่นอกหน้าต่าง มีเงาของอะไรบางอย่างแหวกว่ายในคลื่นทะเลคลั่ง แต่พวกเขาไม่แสดงท่าทีตกใจอะไรทั้งสิ้น ราวกับรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลแม้แต่นิดเดียว?!

ทันใดนั้นเองโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงก็ดังขึ้น

Mera : อาเธอร์?

Arthur : ขอผมรับโทรศัพท์หน่อยแล้วกันนะ เมร่า คุณนอนต่อเถอะ


Arthur : คุณได้เบอร์นี้มาจากไหนกันน่ะ?

Clay : ผมอยากให้คุณบอกผมหน่อยว่าคุณเจออะไรอีกในหุบเหวใต้ทะเลนั่นนอกจากพวกตัวประหลาดพวกนั้น!

Clay : เราพบวัตถุบางอย่างที่ฝังอยู่ในกำแพงที่คุณใช้ขนคนที่โดนจับไปกลับขึ้นมา เมื่อเราพยายามจะตรวจสอบมัน มันก็ส่งดังลั่นขนาดที่ทำให้กระจกทุกบานที่อยู่ใกล้มันแตกละเอียดหมดออกมา มาตอนนี้มันก็ส่งเสียงแหลมแสบแก้วหู เสียงมันเกือบจะคล้ายกับของปลาโลมา เหมือนมันพยายามจะพูดกับใครบางคน

Clay : มันดูเหมือนกับอักษร “A” บนเข็มขัดของคุณ อันที่มันหมายถึง “Aquaman” น่ะ

Arthur : มันหมายถึง “Atlantis” ต่างหาก มันเป็นตราสัญลักษณ์ของอาณาจักร

Clay : แล้วมันเป็นของคุณหรือเปล่าน่ะ?

Arthur : ไม่ใช่

Clay : แล้วคุณรู้ไหมว่าเสียงนี่มันหมายความว่ายังไง?


Arthur : ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ล่ะ

ตัดมาที่ปัจจุบัน

Arthur เดินโซซัดโซเซไปในทะเลทราย เพราะบาดแผลใหญ่ที่ขาทำให้เขาไม่สามารถกระโดดช่วงไกลออกไปจากที่นี่ได้


เขาถอดชุดเกราะที่ฉีกขาดจนไร้ประโยชน์ออก

หลังจากเดินไปตามสัญชาติญาณได้ครู่หนึ่ง เขาก็ไปพบกับตรีศูรของเขา

แต่สภาพของทะเลทรายกำลังทำให้ร่างกายของเขาถึงขีดจำกัด…

Arthur : ฉัน…ฉันต้องการ…น้ำ

Arthur : อึก….

เขาหมดแรงล้มลง ในห้วงความคิดที่รางเลือน เขาหวลนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

Arthur : คุณไปพบมันที่ไหนนะ?


Clay : มันติดอยู่กับผนังที่คุณเอาขึ้นมาจากทะเลน่ะสิ

Arthur : มันเป็นชิ้นส่วนตัวเรือของยานแอตแลนติสโบราณ

Clay : ของแอตแลนติสงั้นหรือ?

Arthur : มันมีอยู่จริงๆครับท่านผู้การ

ว่าแล้ว Arthur ก็ก้มลงไปหยิบวัตถุนั้นขึ้นมา

Clay : คุณควรจะหาอะไรมาอุดหูไว้…

ทันใดนั้นเองเสียงแหลมแสบแก้วหูก็ดังขึ้นอีก

Clay : เสียงที่มันปล่อยออกมานี้มันทำให้แสบแก้วหูไปหมดเลยใช่ไหมล่ะ?

Arthur : มันยิ่งแย่กว่านั้นอีกเมื่อมีหูที่ดีเป็นพิเศษแบบผมนี่

Clay : คุณมีพลังการฟังเสียงเหนือมนุษย์ด้วยหรือ? แบบซุปเปอร์แมนน่ะนะ?

Arthur : ก็ใกล้เคียงนั่นแหละ ทีนี้ช่วยหยุดตะโกนเสียที

Clay : แล้วคุณพอจะบอกอะไรได้ไหม?

Arthur : ถ้าดูตามมาตรฐานของแอตแลนติส มันค่อนข้างจะล้าสมัยอยู่ เทคโนโลยีเช่นนี้มันถูกใช้ตั้งแต่ตอนก่อนที่ทวีปจะจทลงสู้ทะเล มันเทียบได้กับกล่องดำของเครื่องบิน แต่มันเก่าแก่กว่าหลายศตวรรต

Clay : ถ้างั้นมันก็มีข้อมูลบันทึกอยู่งั้นรึ?

ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น?!


มีกองกำลังไม่ทราบที่มาบุกเข้ามาในห้องทดลอง และมันก็เอาเครื่องบันทึกข้อมูลของยาน Atlantis โบราณไป


พวกมันจะขับยานบินหนี แต่ Arthur ก็โดดขึ้นไปเกาะบนยานของพวกมันได้


ตัดมาที่ปัจจุบัน

Arthur ที่ติดอยู่กลางทะเลทรายก็เห็นภาพของพ่อของเขาปรากฎขึ้นต่อหน้า


“พ่อ” ที่ปรากฎขึ้นต่อหน้าได้พูดถึงสิ่งที่เขาเก็บลึกไว้ในใจ ทั้งเรื่องของ Mera, การที่เขาทิ้งบัลลังค์ของ Atlantis มา, ความไม่มั่นใจลึกๆของเขาที่ว่าเขานั้นจะมีที่ๆเขาควรอยู่บ้างหรือไม่?

และตรงนี้เอง Arthur ก็รู้ตัวว่าสิ่งที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าเป็นเพียงภาพหลอนที่จิตใจของเขาสร้างขึ้นจากภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงเท่านั้น


เขาพยายามใช้โทรจิตไล่ภาพหลอนออกไป

แต่ทันใดนั้นเอง โทรจิตที่เขาใช้ไปก็ทำให้เขาสัมผัสถึง “บางสิ่ง” ได้

Arthur : ฟัง…ฟังเสียงของมัน.

เมื่อมั่นใจว่าเสียงที่เขาได้ยินคืออะไร Arthur ก็รวบรวมกำลังลุกขึ้นยืน

Arthur : ฉันได้ยินเจ้าแล้ว…ฉันจะ…


ตัดไปที่ตอนที่ตามพวกที่ขโมยเครื่องบันทึกไป

เขาพังผนังยานเข้าไปและเข้าลุยกับพวกโจรที่เข้ามาขโมยมันไป


เขาต่อยหมวกของพวกมันคนหนึ่ง แต่สิ่งที่อยู่ภายในหมวกนั้นกลับเป็น…

Arthur : น้ำงั้นรึ?!

Arthur : พวกแกเป็นชาวแอตแลนติสนี่นา

ขณะที่เขากำลังตกตะลึง เจ้าพวกคนอื่นๆก็เตรียมจะยิงเขา แต่เพื่อนของมันก็รีบร้องบอกว่าอย่ายิง เพราะตอนนี้เชื้อเพลิงรั่วอยู่!!

แต่ก็ช้าไปแล้ว และด้วยประกายไฟจากปากกระบอกปืน ยานก็ระเบิดเป็นลูกไฟขึ้นกลางอากาศ!

ส่วน Arthur ก็ถูกแรงระเบิดซัดกระเด็นออกนอกยาน และนั่นก็คือสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงไปตกอยู่กลางทะเลทรายได้


มาที่ปัจจุบัน

Arthur ตามเสียงที่เขาได้ยินมาถึงซากของยานบินที่ตกลง และเขาก็ไปหยิบเอาเครื่องบันทึกขึ้นมา และเอามันจุ่มลงในน้ำที่อยู่ในหมวกของพวกโจร

และเมื่อเครื่องบันทึกลงไปแช่อยู่ในน้ำมันก็เริ่มทำงาน


และฉายสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ออกมา

??? : แอตแลนติสกำลังตกอยู่ในอันตราย


Arthur : นี่มัน…เป็นของจริง

??? : เราติดตามศัตรูของเราไปจนถึงก้นมหาสมุทรที่เราเรียกว่าบ้าน แต่ตอนที่เราตามมันจนพบก็เกิดพายุใหญ่ขึ้น เราเชื่อว่าพายุนั่นเป็นสิ่งที่ศัตรูของเราสร้างขึ้น เพื่อหลบเลี่ยงมันเราจึงดำลึกลงไปใต้ทะเล แต่เราดำลงลึกเกินไป

??? : เราถูกโจมตีโดยบางสิ่งที่อยู่ในหุบเหวใต้ทะเล เราเสียการควบคุม และยานของเราก็จมลง

??? : และเราก็ได้ยินเสียงของพวกมันกำลังพยายามพังผนังยานเข้ามา

??? : เราเหลือเวลาอีกไม่มากก่อนที่พวกมันจะบุกเข้ามา

(เขากำลังพูดถึงพวกสัตว์ประหลาดในหุบเหวใต้ทะเลที่ Arthur สู้ด้วยก่อนหน้านี้)


??? : ถ้าท่านเก็บกู้บันทึกนี้ได้ ขอให้รู้ว่าศัตรูของเรากำลังวางแผนจะโจมตีแอตแลนติส มันคิดที่จะจมแอตแลนติสลงสู่ก้นทะเล

??? : นี่เป็นเพราะราชาและราชินี พวกเขาซ่อนความจริงนี้จากเรา พวกเขา…แย่แล้ว!!

??? : พวกมันเข้ามาได้แล้ว! พวกมัน…อ๊าคคค!!!

บันทึกจบลงเพียงแค่นี้ แต่เมื่อ Arthur หมดสิ้นเรี่ยวแรง เขาก็รู้สึกถึงลมที่พัดลงมาจากเบื้องบน?!


เป็นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือสหรัฐที่ตามยานบินของพวกโจรมา ซึ่งการที่ Arthur ตามมาถึงที่ซากยานนี่ก็ทำให้เขาได้รับการช่วยเหลือ เพราะการค้นหาซากยานนั้นสามารถหาด้วยเรดาห์ได้ จึงทำให้มันค้นหาได้ง่ายกว่าการหาตัวคนมาก

หลังจากนั้น

เรื่องที่ Arthur ไปติดอยู่กลางทะเลทรายก็ถูกเอาไปโพสลงเน็ต


ทางโทรทัศน์ พวกสื่อก็เอาไปล้อเลียนกันใหญ่ เพราะมันไม่บ่อยนักที่ซุปเปอร์ฮีโร่จะตกที่นั่งลำบากจนต้องให้คนช่วย แถม Aquaman ก็มักถูกมองในแง่เป็นตัวตลกอยู่แล้วด้วย

แต่ทางด้าน Arthur นั้นก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจ เพราะเขามีเรื่องสำคัญกว่านั้นมากที่ต้องคิด

เขาตรงกลับบ้านไปหา Mera เพื่อบอกเธอถึงสิ่งที่เขาได้พบ แต่พบว่าเธอออกไปซื้ออาหารหมาที่ในเมือง


ตอนต่อไป : Mera Vs. The World

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น